-
1.Lipid Profile คืออะไร
Lipid Profile คือ กลุ่มของการทดสอบไขมันในเลือด ซึ่งประกอบด้วย Cholesterol, Triglyceride, HDL, LDL เพื่อวัดอัตราเสี่ยงและเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่า บุคคลนั้นมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดจากการอุดตันหรือการแข็งตัว ของหลอดเลือดแดง(Atherosclerosis) หรือไม่
-
2.การตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต ต้องทำการทดสอบใดบ้าง
เมื่อ ผู้ป่วยไปพบแพทย์ด้วยเรื่องบวมหลังเท้า หรือโลหิตจางโดยไม่มีการเสียเลือด หรือการตรววจสุขภาพประจำปี แพทย์จะทำการตรวจประเมินประสิทธิภาพการทำงานของไต ว่ายังคงสามารถทำหน้าที่ในการกรองของเสียออกจากร่างกายได้หรือไม่ โดยทำการตรวจวัดดังนี้
- Blood Urea Nitrogen (BUN) คือการหา urea ในกระแสเลือด ที่เกิดจาการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีน
- Creatinine (Cr) เป็นของเสียที่เกิดจากการสลายของกล้ามเนื้อ และจะถูกขับออกทางปัสสาวะ
ในภาวะปกติไตจะขับสารทั้ง 2 ออกจากร่างกาย ทำให้ไม่มีการสะสมในกระแสเลือด
- Creatinine Clearance เป็นการหาปริมาณเลือดที่ถูกกรองโดยไต โดยการหาปริมาณ Creatinineที่ถูกขับออกมาทางปัสสาวะตลอด 24 ชั่วโมง แล้วนำไปเทียบกับปริมาณCreatinineในเลือด เราก็จะทราบได้ว่ามีเลือดที่ผ่านการกรองโดยไตปริมาณกี่ซีซี/นาที ซึ่งปกติไตเราจะกรองเลือด100-120 ซีซี/นาที ดังนั้นถ้าไตเสื่อมลงร้อยละ 50 ก็จะพบว่าไตกรองเลือดได้เพียง 50-60 ซีซี/นาที ส่วนอีก 50-60 ซีซีนั้นผ่านไตไปโดยไม่ได้รับการกรองของเสียออก
3.Liver Function Test คืออะไร
Liver Function Test คือ การตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ ในกรณีที่มีการตรวจร่างกายประจำปี หรือกรณีที่มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง โดยทำการทดสอบดังนี้
1.การตรวจระดับเอนไซม์(Enzyme)จากตับ
- Asparate aminotransferase (AST) หรือ SGOT
- Alanine aminotransferase (ALT) หรือ SGPT
- Alkaline phosphatase (ALP)
AST และ ALT เป็นเอนไซม์ที่อยู่ในเซลล์ตับ หากเซลล์ตับมีการอักเสบ จะส่งผลให้เอนไซม์ทั้ง 2 มีค่าสูงขึ้นในกระแสเลือด ระดับ ALP ที่สูงขึ้นในวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ แสดงถึงการอุดตันของทางเดินน้ำดี ส่วนระดับ ALP ที่สูงขึ้นในเด็กและสตรีมีครรภ์ เป็นตัวบ่งบอกว่ามีการสร้างกระดูกอยู่
2.การตรวจภาวะดีซ่าน
- Total Bilirubin
- Direct Bilirubin หรือ Conjugated Bilirubin
- Indirect Bilirubin หรือ Unconjugated Bilirubin
เมื่อ เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย Hemoglobin จะสลายตัวกลายเป็น Indirect Bilirubin แล้วถูกส่งต่อไปยังตับผ่านกระบวนการ Conjugate กลายเป็น Direct Bilirubin ที่มีความสามารถในการละลายน้ำได้ เพื่อขับทิ้งทางท่อน้ำดี ออกไปรวมกับอุจจาระ ทำให้อุจจาระมีสีเหลือง
ระดับ Indirect Bilirubin ที่สูงขึ้น แสดงถึงสภาวะเม็ดเลือดแดงแตกสลายมากกว่าปกติจนเกิดภาวะดีซ่าน ส่วนระดับ Direct Bilirubin ที่สูงขึ้น แสดงถึงสภาวะการอุดตันของท่อทางเดินน้ำดี เนื่องจากตับยังสามารถทำหน้าที่ในการ Conjugate เปลี่ยน Indirect Bilirubin เป็น Direct Bilirubinได้ แต่ด้วยท่อทางเดินน้ำดีมีการอุดตันจึงทำให้ Direct Bilirubin เกิดการย้อนกลับ ดังนั้นเราจึงตรวจพบ Direct Bilirubin มีค่าสูงขึ้นในกระแสเลือดนั่นเอง
3.การตรวจสภาวะการทำงานของตับ
- Albumin
- Globulin
- Total Protein
หน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของตับ คือ การสร้างโปรตีน หากตับเสียคุณสมบัติในการทำงานไป จะตรวจพบว่าค่าของ Albumin, Globulin และ Total Protein ในกระแสเลือดต่ำลงกว่าปกติ
4.การตรวจความผิดปกติของ Coagulation factor
เป็น การตรวจความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด ผู้ป่วยจะมีภาวะเลือดออกง่ายและเลือดออกไม่หยุด Coagulants factor หลายชนิดเป็นโปรตีนที่สร้างมาจากตับ หากตับมีการทำงานที่ผิดปกติไปก็จะส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดด้วย
4. ลักษณะของผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเบาหวานเป็นอย่างไร
1.ปัสสาวะบ่อย, กระหายน้ำ, แผลหายช้า และมีอาการตามัว
2.ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี (ควรตรวจทุกปี)
3.ผู้ที่มีญาติสายตรงเป็นเบาหวาน
4.คนอ้วน
5.ผู้ที่มีประวัติคลอดบุตรน้ำหนักแรกเกิดมากกว่า 4 กิโลกรัม
6.มีความดันโลหิตสูง
7.มีไขมันในเลือดสูง
5. ระดับน้ำตาลเท่าใดจึงถือว่ามีภาวะเบาหวาน
1.ตรวจพบ Fasting Blood Glucose > 126 mg/dL มากกว่า 2 ครั้ง
2.ตรวจพบ Random Blood Glucose > 200 mg/dL ร่วมกับมีอาการทางคลินิก
Clock
วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554
FAQ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น