Clock


วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

FAQ

  • 1.Lipid Profile คืออะไร

    Lipid Profile คือ กลุ่มของการทดสอบไขมันในเลือด ซึ่งประกอบด้วย Cholesterol, Triglyceride, HDL, LDL เพื่อวัดอัตราเสี่ยงและเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่า บุคคลนั้นมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจที่เกิดจากการอุดตันหรือการแข็งตัว ของหลอดเลือดแดง(Atherosclerosis) หรือไม่

  • 2.การตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต ต้องทำการทดสอบใดบ้าง

    เมื่อ ผู้ป่วยไปพบแพทย์ด้วยเรื่องบวมหลังเท้า หรือโลหิตจางโดยไม่มีการเสียเลือด หรือการตรววจสุขภาพประจำปี แพทย์จะทำการตรวจประเมินประสิทธิภาพการทำงานของไต ว่ายังคงสามารถทำหน้าที่ในการกรองของเสียออกจากร่างกายได้หรือไม่ โดยทำการตรวจวัดดังนี้

    - Blood Urea Nitrogen (BUN) คือการหา urea ในกระแสเลือด ที่เกิดจาการเผาผลาญอาหารประเภทโปรตีน

    - Creatinine (Cr) เป็นของเสียที่เกิดจากการสลายของกล้ามเนื้อ และจะถูกขับออกทางปัสสาวะ

    ในภาวะปกติไตจะขับสารทั้ง 2 ออกจากร่างกาย ทำให้ไม่มีการสะสมในกระแสเลือด

    - Creatinine Clearance เป็นการหาปริมาณเลือดที่ถูกกรองโดยไต โดยการหาปริมาณ Creatinineที่ถูกขับออกมาทางปัสสาวะตลอด 24 ชั่วโมง แล้วนำไปเทียบกับปริมาณCreatinineในเลือด เราก็จะทราบได้ว่ามีเลือดที่ผ่านการกรองโดยไตปริมาณกี่ซีซี/นาที ซึ่งปกติไตเราจะกรองเลือด100-120 ซีซี/นาที ดังนั้นถ้าไตเสื่อมลงร้อยละ 50 ก็จะพบว่าไตกรองเลือดได้เพียง 50-60 ซีซี/นาที ส่วนอีก 50-60 ซีซีนั้นผ่านไตไปโดยไม่ได้รับการกรองของเสียออก

  • 3.Liver Function Test คืออะไร

    Liver Function Test คือ การตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ ในกรณีที่มีการตรวจร่างกายประจำปี หรือกรณีที่มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง โดยทำการทดสอบดังนี้

    1.การตรวจระดับเอนไซม์(Enzyme)จากตับ

    - Asparate aminotransferase (AST) หรือ SGOT

    - Alanine aminotransferase (ALT) หรือ SGPT

    - Alkaline phosphatase (ALP)

    AST และ ALT เป็นเอนไซม์ที่อยู่ในเซลล์ตับ หากเซลล์ตับมีการอักเสบ จะส่งผลให้เอนไซม์ทั้ง 2 มีค่าสูงขึ้นในกระแสเลือด ระดับ ALP ที่สูงขึ้นในวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ แสดงถึงการอุดตันของทางเดินน้ำดี ส่วนระดับ ALP ที่สูงขึ้นในเด็กและสตรีมีครรภ์ เป็นตัวบ่งบอกว่ามีการสร้างกระดูกอยู่

    2.การตรวจภาวะดีซ่าน

    - Total Bilirubin

    - Direct Bilirubin หรือ Conjugated Bilirubin

    - Indirect Bilirubin หรือ Unconjugated Bilirubin

    เมื่อ เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย Hemoglobin จะสลายตัวกลายเป็น Indirect Bilirubin แล้วถูกส่งต่อไปยังตับผ่านกระบวนการ Conjugate กลายเป็น Direct Bilirubin ที่มีความสามารถในการละลายน้ำได้ เพื่อขับทิ้งทางท่อน้ำดี ออกไปรวมกับอุจจาระ ทำให้อุจจาระมีสีเหลือง

    ระดับ Indirect Bilirubin ที่สูงขึ้น แสดงถึงสภาวะเม็ดเลือดแดงแตกสลายมากกว่าปกติจนเกิดภาวะดีซ่าน ส่วนระดับ Direct Bilirubin ที่สูงขึ้น แสดงถึงสภาวะการอุดตันของท่อทางเดินน้ำดี เนื่องจากตับยังสามารถทำหน้าที่ในการ Conjugate เปลี่ยน Indirect Bilirubin เป็น Direct Bilirubinได้ แต่ด้วยท่อทางเดินน้ำดีมีการอุดตันจึงทำให้ Direct Bilirubin เกิดการย้อนกลับ ดังนั้นเราจึงตรวจพบ Direct Bilirubin มีค่าสูงขึ้นในกระแสเลือดนั่นเอง

    3.การตรวจสภาวะการทำงานของตับ

    - Albumin

    - Globulin

    - Total Protein

    หน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของตับ คือ การสร้างโปรตีน หากตับเสียคุณสมบัติในการทำงานไป จะตรวจพบว่าค่าของ Albumin, Globulin และ Total Protein ในกระแสเลือดต่ำลงกว่าปกติ

    4.การตรวจความผิดปกติของ Coagulation factor

    เป็น การตรวจความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด ผู้ป่วยจะมีภาวะเลือดออกง่ายและเลือดออกไม่หยุด Coagulants factor หลายชนิดเป็นโปรตีนที่สร้างมาจากตับ หากตับมีการทำงานที่ผิดปกติไปก็จะส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดด้วย

  • 4. ลักษณะของผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะเบาหวานเป็นอย่างไร

    1.ปัสสาวะบ่อย, กระหายน้ำ, แผลหายช้า และมีอาการตามัว

    2.ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี (ควรตรวจทุกปี)

    3.ผู้ที่มีญาติสายตรงเป็นเบาหวาน

    4.คนอ้วน

    5.ผู้ที่มีประวัติคลอดบุตรน้ำหนักแรกเกิดมากกว่า 4 กิโลกรัม

    6.มีความดันโลหิตสูง

    7.มีไขมันในเลือดสูง

  • 5. ระดับน้ำตาลเท่าใดจึงถือว่ามีภาวะเบาหวาน

    1.ตรวจพบ Fasting Blood Glucose > 126 mg/dL มากกว่า 2 ครั้ง

    2.ตรวจพบ Random Blood Glucose > 200 mg/dL ร่วมกับมีอาการทางคลินิก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา