โรคพาร์กินสัน Parkinson – นิยาม สาเหตุ อาการและแนวทางรักษา
โรคพาร์กินสัน Parkinson
คืออาการผิดปกติที่ระงับการเติบโตของระบบประสาทส่วนกลาง
โดยโรคนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ประสาท ที่เรียกกันว่า นิวรอน
ซึ่งอยู่ในพื้นที่หนึ่งของสมองที่ชื่อว่า substantia nigra ได้ตายลงหรือทำงานได้แย่ลง โดยปกติแล้ว นิวรอนเหล่านี้จะผลิตสารเคมีในสมองที่เรียกว่า โดปามีน ในขณะนี้มีผู้คนอย่างน้อย 500,000 คน
ในสหรัฐอเมริกาที่เป็นโรคนี้
โรคพาร์กินสันนั้นถูกจัดอยู่ในกลุ่มของโรคที่เรียกว่าการผิดปกติของการ
เคลื่อนที่ โรคนี้จะมีการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ กล่าวคือ
อาการของมันจะแย่ลงเรื่อยๆไปทุกวัน
ถึงแม้ว่าเราจะสามารถลดความรุนแรงของอาการโรคได้
แต่มันก็จะมีการพัฒนาไปทีละนิด โรคพาร์กินสันนี้จะมีผลต่อการเคลื่อนไหว
(อาการที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว) และผลอื่นๆเช่น ความผิดปกติของอารมณ์
พฤติกรรม การคิด และความรู้สึก (อาการที่ไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว)
โดยอาการของคนไข้แต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปรวมไปถึงการพัฒนาของโรคในแต่ละคน
ก็จะแตกต่างกันไปด้วย
โรคพาร์กินสันนั้นมักจะเริ่มปรากฏอาการเมื่ออายุประมาณ 60 ปี
โดยมันจะพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
และอาการของโรคนี้มักจะเริ่มที่ข้างใดข้างหนึ่งของร่างกายก่อนและจึงส่งผล
กระทบต่ออีกข้างหนึ่ง
มันมีอาการหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับโรคพาร์กินสัน
ผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสัน (อาการสันนิบาต)
อาจจะสังเกตว่าตนอ่อนแอหรือเหนื่อยง่าย มีอาการเช่น ความผิดปกติของอารมณ์
พฤติกรรม การคิดและความรู้สึก
การขาดความสมดุลเช่นนี้เกิดจากการเสียหายของระบบรีเฟลกซ์ที่ทำหน้าที่ปรับ
ท่าทางให้เกิดความสมดุล
การล้มถือเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสัน
อาการสั่นของกล้ามเนื้อก็ถือเป็นหนึ่งในอาการแรกๆของ 3 ใน 4 ของผู้ทีเป็นโรคพาร์กินสันและกระทบต่อผู้ป่วยโรคพาร์กินสันแทบทุกคน . อาการ Bradykinesia ถือ
เป็นอาการหนึ่งที่จะมีการเคลื่อนไหวช้า นอกจากการเคลื่อนไหวที่ช้าแล้ว
ผู้ที่มีอาการนี้อาจจะมีอาการการเคลื่อนไหวที่ไม่สมบูรณ์
ความยากที่จะเริ่มเคลื่อนไหวและมีการหยุดเคลื่อนไหวกะทันหันในบางครั้ง
การสูญเสียการควบคุมทั้งกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้อำนาจจิตใจและไม่ได้อยู่ใต้
อำนาจจิตใจทีละนิดละน้อยจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน
ตามมา เช่น อาการ Postural Instability หรือการสูญเสียสมดุลและการประสานการทำให้คนไข้เกิดอาการตัวเอนไปข้างหน้าหรือด้านหลังทำให้ล้มลงได้ง่าย
โรคพาร์กินสันนั้นจะต้องมีวิธีการจัดการที่หลากหลายรวมไปถึงการให้ความรู้แก่คนไข้และครอบครัว สนับสนุนบริการกลุ่ม การดูแลความเป็นอยู่โดยทั่วไป การออกกำลังกายและเรื่องของอาหารการกิน วิธีทางการแพทย์อาจแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเดิน เคลื่อนไหวและอาการสั่นได้โดยให้สาร dopamine แก่สมอง . สาร Amantadine อาจจะถูกเพิ่มไปในการบำบัดที่เรียกว่า carbidopa-levodopa สำหรับผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสันในระยะหลังๆ . ยายับยั้ง Catechol-O-methyltransferase จะช่วยยืดผลของวิธีบำบัดแบบ carbidopa-levodopa ด้วยการไปดักจับเอนไซม์ที่จะทำลาย dopamine. Tocapone(Tasmar) เป็นตัวยับยั้ง COMT ที่มีประสิทธิภาพซึ่งเข้าไปเข้าผสมกับ blood-brain barrier ในระบบสมองส่วนกลาง. ยาชื่อว่า levodopa จะถูกจ่ายให้กับคนไข้ผู้ที่เป็นโรคพาร์กินสันมีชื่อว่า L-dopa ยานี้จะช่วยเพิ่มปริมาณของ dopamine ในร่างกายและได้แสดงถึงความสามารถในการปรับปรุงศักยภาพในการเดินและเคลื่อนที่ไปในที่ต่างๆของคนไข้. Thalamotomy เกี่ยวข้องกับการทำลายเนื้อเยื่อปริมาณน้อยๆในธาลามัส (เป็นศูนย์กลางของสมองในการส่งต่อคำพูดและสื่อความรู้สึก)
คำแนะนำในการรักษาสำหรับผู้เป็นโรคพาร์กินสัน
1. Carbidopa และ bensarazide เป็นตัวยับยั้ง dopa decarboxylase
2. Tolcapone จะยับยั้งเอนไซม์ COMT ดังนั้นมันจะช่วยยืดผลรักษาของ L-dopa และยังถูกใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพแก่ L-dopa
3. Selegiline และ rasagiline จะลดอาการโดยการยับยั้ง monoamine oxidase-B (MAO-B).
4. ยาต้านไวรัสชื่อ amantadine จะช่วยลดอาการของพาร์กินสันและ levodopa-induced dyskinesia.
5. ตัวยับยั้งเอนไซม์ COMT (catechol O-methyl transferase) คือระดับใหม่ของยารักษาที่หยุดการทำลายของ dopamine
6. วิธีการรักษาอื่นๆมีความสำคัญในการจัดการและดูแล
ผู้ป่วยพาร์กินสันซึ่งรวมไปถึงกายภาพบำบัด
การบำบัดโดยการพูดและการบำบัดโดยให้ทำกิจกรรมเบาๆ7. Amantadine ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับตัวแทนของ dopamine แต่ทำงานในคนละส่วนของสมอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น