ณรงค์
อายุ 45 ปี เป็นเจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่งใจกลางเมือง
สิ่งที่โปรดปรานที่สุดคือเรื่องสุขภาพ
เวลาว่างจะหาหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์มานั่งอ่านอยู่เป็นประจำ
นอกจากนี้เขายังให้ความใส่ใจกับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ปีละ 1 ครั้ง
และผลการตรวจก็ไม่พบอะไรผิดปกติ นอกจากคอเลสเตอรอลสูง
แพทย์จึงแนะนำให้ดูแลเรื่องอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เขามีอาการแน่นท้องและผายลม ผ่านไป 3 เดือน
อาการแน่นท้องก็ยังคงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว
แต่เมื่อนึกถึงคำพูดหมอว่าไม่มีความผิดปกติใด ๆ เขาจึงไม่ไปโรงพยาบาล
แต่แล้วเขากลับรู้สึกเสียดท้องด้านขวา
จึงได้เข้าไปหาข้อมูลทางการแพทย์ในอินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบดูว่าอาการปวด
เสียดท้องนั้นเป็นอาการเริ่มต้นของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เหมือนพ่อของเขาหรือ
ไม่ และพบว่าอาการสำคัญคือ ต้องมีเลือดปนอุจจาระ
เขาจึงเริ่มสังเกตอุจจาระตัวเอง โชคดีที่ไม่มีเลือดปนออกมา
ทว่าเขาก็ยังคงมีอาการปวดท้องอยู่
2 เดือนต่อมา เขาเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน
ในที่สุดณรงค์ก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของร่างกายจึงรีบมาตรวจที่โรง
พยาบาล และผลก็ออกมาดังที่คิด เขาป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ณรงค์จะสามารถมีชีวิตต่อไปได้หรือไม่!
กลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้
คนที่ไม่บริโภคผัก ผลไม้ การขับถ่ายไม่ถูกสุขลักษณะเป็นประจำ
ดื่มน้ำน้อยท้องผูกเป็นประจำ
หรือบุคคลที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
อาการที่พึงระวัง
คนที่เป็นมะเร็งหลายคนคิดว่าตนเองร่างกายแข็งแรง
ดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและไปตรวจร่างกายเป็นประจำดังนั้น
นอกจากการออกกำลังกายและรับประทานอาหารแล้ว
ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น ท้องอืด ปวดแน่นท้อง
อุจจาระเป็นสีดำ และมีเลือดปน
หลังรับประทานอาหารก็มักมีอาการท้องเสียซึ่งเป็นสัญญาณบอกเหตุของโรคมะเร็ง
ลำไส้
ลักษณะของโรคมะเร็งลำใส้ใหญ่
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
เกิดจากเนื้องอกเจริญเติบโตและมีขนาดใหญ่จนกลายเป็นมะเร็ง
เมื่อเซลล์มะเร็งนั้นขยายใหญ่ขึ้นอุจจาระก็จะไปเสียดสีโดนเนื้อมะเร็งนั้นทำ
ให้มีเลือดไหลออกมากับอุจจาระนอกจากนี้
ยังมีลักษณะของอาการที่เกิดจากเนื้องอกที่เจริญเติบโตและขยายใหญ่เข้าไปข้าง
ในของผนังลำไส้จนกลายเป็นเนื้อร้าย และระเบิดออกมาเหมือนปากปล่องภูเขาไฟ
แต่ไม่มีเลือดไหลออกมาขณะขับถ่ายอุจจาระ
จึงเป็นหลุมพรางของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยไม่รู้ตัว
และยากแก่การตรวจพบของแพทย์ส่วนใหญ่จะสามารถตรวจพบได้โดยใช้ท่อตรวจอวัยวะ
ภายใน ซึ่งผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้จะมีอาการแน่นท้องในตอนแรก
เนื่องจากการขยายใหญ่ขึ้นของเนื้องอก ทำให้ทางเดินลำไส้แคบลง
เกิดแก๊สในท้องทำให้ท้องขยายแน่นขึ้น
เนื้องอกที่ขยายใหญ่ขึ้นนี้เองที่ทำให้ทางเดินลำไส้แคบลงจนไม่สามารถลำเลียง
อุจจาระผ่านออกมาได้สะดวก จึงเกิดอาการเสียดท้อง
แต่เมื่ออุจจาระเดินทางผ่านบริเวณนี้ไปแล้วอาการเสียดท้องก็จะหายไป
และเกิดอาการอาเจียนอย่างรุนแรง
เนื่องจากเซลล์มะเร็งที่ขยายใหญ่ทำให้เกิดการอุดตันของอุจจาระ
อาหารที่ย่อยแลัวจึงถูกสะสมไว้ที่ท้อง ทำให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมา
ส่วนโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นอาการที่มักเริ่มจากท้องน้อยด้านขวา
แล้ววิ่งขึ้นมาตรงลำไส้ใหญ่ส่วนขวา
มาชนตรงตับแล้วก็พาดกลางท้องมาถึงตรงม้ามด้านซ้ายแล้วก็ลงมาตามลำตัวด้าน
ซ้ายและโค้งเข้าสู่อุ้งเชิงกราน
ส่วนโค้งซึ่งเป็นส่วนที่อุจจาระมาเก็บและลงไปในอุ้งเชิงกรานเรียกลำไส้ใหญ่
ส่วนนี้ว่า "ลำไส้ตรง"
เมื่ออุจจาระที่เก็บไว้ที่ส่วนโค้งและบริเวณลำไส้ตรงสัมผัสตรงนี้อยู่นานจะ
ทำให้เกิดสารพิษจากอุจจาระหรือของเสียที่สร้างความระคายเคืองให้แก่เยื่อบุ
ลำไส้ใหญ่ก็จะเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดย 2 ใน 3
ของมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่เกิดในประเทศไทยจะเกิดบริเวณลำไส้ตรง
ที่เหลือทั้งหมดคือ 1 ใน 3 พบในลำไส้ใหญ่ส่วนที่อยู่สูงขึ้นไป
มะเร็งส่วนใหญ่มักจะตรวจเจอเมื่อสายไปเสียแล้ว
แม้จะรักษาสุดฝีมือแต่แพทย์ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าพบในระยะที่
1 ใช้การผ่าตัดรักษาเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องฉายแสง ไม่ต้องให้ยาเคมีบำบัด
ก็มีโอกาสหายมากกว่า 95% ดังนั้นเมื่อมีอายุ 40-50 ปีไปแล้ว
ไม่เพียงแต่ต้องไปรับการตรวจสุขภาพทั่วไป
แต่ควรไปรับการตรวจด้วยการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่หรือการส่องกล้องตรวจลำไส้
ใหญ่แบบเสมือนที่เรียกว่า Virtual colonoscopy
เพื่อจะได้สบายใจว่าคุณไม่ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง
และหากทราบอาการตั้งแต่เริ่มแรกก็จะรักษาได้ทันท่วงที
วิธีการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ในการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่แบบเสมือน เบื้องต้นแพทย์จะทำการตรวจร่างกายโดยการให้กรอกแบบสอบถามให้
เตรียมลำไส่ใหญ่โดยการปรับอาหารและใช้ยาระบายอยู่ 2 วัน
แล้วเข้าเครื่องตรวจโดยเครื่องเอกซเรย์ความเร็วสูง หรือที่เรียกกันว่า CT
scan แพทย์จะสอดท่อยางเล็ก ๆ สั้น ๆ
เข้าทางทวารหนักเพื่อเป่าลมเข้าไปในลำไส้ใหญ่เล็กน้อย
แล้วให้ผู้เข้ารับการตรวจนอนนิ่งบนเตียงภายใต้เครื่องคอมพิวเตอร์สแกน
ให้หายใจเข้า หายใจออก กลั้นหายใจ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
เครื่องจะทำการตรวจเก็บข้อมูลลำไส้ใหญ่ ด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์นี้
ซึ่งจะเห็นลำไส้ทั้ง 2 มิติ และ 3 มิติ
หากพบว่ามีชิ้นติ่งเนื้อบริเวณลำไส้ใหญ่
แพทย์ก็จะทำการรักษาโดยการใช้กล้องส่องเข้าไปตัดออกก่อนที่มันจะกลายเป็น
มะเร็ง หรือในกรณีที่พบว่ามันเป็นมะเร็งไปแล้ว
ก็จะทำการผ่าตัดเอาลำไส้ส่วนนั้นออก
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคที่มีอุบัติการณ์ในประเทศไทยเป็นอันดับที่ 5 และเป็นสาเหตุการตายเป็นอันดับ 3
***มะเร็งอุดตันการขับถ่าย เมื่ออุจจาระผ่านลำไส้ใหญ่ ส่วนที่เป็นมะเร็งจะเกิดการเสียดสีทำให้ปวดเสียดและเลือดออก***
***มะเร็งขัดขวางการขับถ่ายจึงทำให้อุจจาระสะสมในลำไส้ใหญ่
เมื่ออาหารที่รับประทานเข้าไปไม่สามารถไปที่ลำไส้ใหญ่ได้ ร่างกายจึงต่อต้าน
ทำให้อาเจียนออกมา***
รู้ไว้ ไกลโรคมะเร็งลำไส้
รับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มีกากใย ดื่มน้ำให้เพียงพอ
เพราะน้ำเป็นตัวหล่อลื่น ช่วงที่อากาศร้อนควรดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 3
ลิตรต่อวัน ส่วนช่วงที่อากาศไม่ร้อนควรดื่มให้ได้วันละ 2.5 ลิตรต่อวัน
และออกกำลังกาย เช่น เดิน วิ่ง
แพทย์ผู้ให้ข้อมูล:พล.ต.รศ.นพ.ปริญญา ทวีชัยการ หัวหน้าศูนย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โรงพยาบาลพญาไท 1 และ2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น