Clock


วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

โรคเนื้องอกในโสตประสาท

คณิต อายุ 35 ปี เป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ถึงแม้จะเพิ่งเปิดร้านได้ไม่นานแต่ด้วยรสชาติอร่อยจึงทำให้มีลูกค้าเข้าร้าน เป็นจำนวนมาก  ดังนั้นเขาจึงยุ่งอยู่กับการขายก๋วยเตี๋ยวทั้งวัน  ซึ่งเขาเองก็ทุ่มเทอย่างมากเพื่อสร้างฐานะให้ครอบครัว  จึงต้องเปิดร้านถึงมืดค่ำ  แต่หลังจากครึ่งปีที่เปิดร้าน  ก็เริ่มมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของเขา  คือหูซ้ายไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ แล้ว 2 วันต่อมาอาการนั้นก็หายไป
    หลังจากเกิดอาการหูตึงประมาณ 2 สัปดาห์ต่อมา อยู่ๆ คณิตก็มีอาการเวียนหัวจนล้มลงทรุดกับพื้น ภรรยาพาเขาไปพักผ่อน  ซึ่งหลังจากพักแล้วก็ไม่เกิดอาการเวียนศีรษะขึ้นมาอีก  ทว่าหลังจากเวลาผ่านไป  1 ปี ก็มีอาการผิดปกติอย่างอื่นเกิดขึ้นอีก  เมื่อตอนเช้าเขาปรุงน้ำซุปได้รสที่พอใจ แต่พอตกบ่าย กลับพบว่ารสเค็มไปจน ลูกค้าต้องเข้ามาขอเปลี่ยนชาม
เขาจึงแปลกใจกับการที่ลิ้นไม่รับรส  จึงตัดสินใจว่าจะปิดร้านเร็วเพื่อพักผ่อนให้มากขึ้น  และหลังจากที่ได้พักทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ
    แต่หลังจากนั้นประมาณ 4 เดือน จู่ๆรอบตาซ้ายก็เกิดอาการกระตุกขึ้น และ โรคที่น่ากลัวก็เผยออกมา หลังจากมีอาการแปลกๆที่ตาประมาณ 3 อาทิตย์ เมื่อกลับมาที่บ้านแล้ว ภรรยาทำสปาเก็ตตีให้เขาทาน แต่แล้วทำไมเส้นบะหมี่ที่ใส่เข้าปากแล้วกลับหล่นลงมา ทำให้คณิตรู้สึกกลัว ขึ้นมา เขาจึงคิดจะขึ้นไปนอนพักผ่อน ขณะเดินผ่านกระจก ถึงกับอึ้งเมื่อพบว่า ใบหน้าด้านซ้ายของตัวเองตกลงมาและบูดเบี้ยว เกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของเขา

    กลุ่มเสี่ยง
    โรคเนื้องอกในโสตประสาทเป็นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ช่วงวัยที่พบบ่อยคือ ผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-60 ปี และพบมากที่สุดในผู้ที่มีอายุ 40 ปี อาการหูตึงมักเกิดกับคนที่อยู่บริเวณเสียงดังเป็นเวลานานๆ หรือระดับของ เสียงเกินระดับการได้ยินของหู โดยระดับเสียงที่ถือว่าปกติ คือ ระดับความดัง  0-20 เดซิเบล ส่วนระดับเสียงที่ถือว่าเป็นภาวะเสี่ยง คือ ระดับความดัง 20-40 เดซิเบล

    อาการที่พึงระวัง
    คนที่มีอาการหูอื้อ หูตึง ฟังไม่ค่อยได้ยิน มีอาการวิงเวียนศีรษะบ่อยๆ กระตุกที่ขอบตา อาการเหล่านี้อาจจะมองว่าเป็นอาการเล็ก ๆ แต่หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษา จากโรคหูก็อาจลุกลามไปถึงสมอง กลายเป็นโรคเนื้องอกในโสตประสาทได้

     ***เนื้องอกในโสตประสาทมักจะเกิดที่เส้นประสาทของหู ระหว่างหูชั้นในและสมอง***
     ***เนื้องอกโตจนเบียดเนื้อที่ของสมอง หากไม่รักษาเนื้องอกจะโตขึ้นเรื่อย ๆ จนเบียดเนื้อที่ของสมอง***
     ***ภาพแสดงเนื้องอกที่ไปกดทับเส้นประสาทการทรงตัว ทำให้เวียนศีรษะและเสียการทรงตัว***

    วิธีการรักษา
    เนื้องอกในโสตประสาทมี 2 ส่วนคือส่วนการทรงตัวและส่วนการได้ยิน วิธีการตรวจคือให้ผู้ป่วยปิดตาและยืนบนจุดที่กำหนดและยื่นมือไปข้างหน้า จากนั้นให้ย่ำเท้าอยู่กับที่ 30 ครั้ง เพื่อทดสอบระบบการทรงตัวร่วมกับข้อต่อ โดยให้ผู้ป่วยย่ำเท้าอยู่ที่เดิม ไม่เฉไปข้างซ้ายหรือขวา ถ้าเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง แสดงว่าด้านนั้นมีปัญหาการรับรู้ การทรงตัวด้านนั้นเสื่อมหรือเสียไป ถ้าเดินย่ำตรงไปข้างหน้าถือว่าปกติ ถ้าเอียงเกิน 60 องศา ไม่ว่าจะเอียงซ้ายหรือเอียงขวา  ถือว่าเสี่ยงต่อการเป็นโรคเนื้องอก ในโสตประสาท
    เนื้องอกในโสตประสาทเป็นโรคที่แสดงอาการค่อนข้างช้า มีอัตราการโตประมาณ  2-4  มิลลิเมตรต่อปี แต่บางรายพบว่ามีก้อนโตประมาณ 2 เซนติเมตร ต่อปีก็มีโดยจะค่อย ๆ ขยายในลักษณะคล้ายบอลลูนช้าๆ จนไปกดเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียงคือเส้นประสาทคู่ที่ 7 ที่เกี่ยวกับการขยับของใบหน้า ถ้าประสาทการได้ยินดีอยู่ประสาทศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัด แต่กรณีที่การได้ยินเสื่อมจะไม่สามารถรักษาไห้หายขาดได้ ยังมีอาการหูตึง ซึ่งอาการหูตึงเกิดได้ทั้งจากหูตึงตามวัยและหูตึงจากการทำงาน โดยหูตึงตามวัยจะเสื่อมทั้ง 2 ข้าง ส่วนหูตึงจากการทำงานพบกับคนที่อยู่ในที่เสียงดัง หรือใช้อุปกรณ์ที่ใช้เสียงเช่น ตำรวจจราจร ยาม ที่ใช้นกหวีด หรือเป่าเครื่องดนตรีประเภทแซ็กโซโฟน


    รู้ไว้ ไกลโรค
    ไม่ควรอยู่ในที่ที่มีเสียงดังหรือทำให้หูระคายเคือง หลีกเลี่ยงการแคะหู กรณีที่เป็นขี้หูแบบป่นสามารถใช้คัตตอนบัตแคะได้  แต่ถ้าเป็นขี้หูเปียกแบบเนื้อมะพร้าวไม่ควรแคะโดยเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้ ขี้หูดันเข้าไปข้างในซึ่งเป็นอันตรายต่อหูและอาจส่งผลต่อระบบการได้ยิน

    แพทย์ผู้ให้ข้อมูล : นพ.สักกะ ณ ตะกั่วทุ่ง แพทย์หัวหน้าหน่วยหู คอ จมูก ประจำโรงพยาบาลพญาไท 1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา