ท่านที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคเอดส์ พฤติกรรมเสี่ยงได้แก่ การมีคู่หลายคน การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน
|
---|
ท่านที่ไม่รับผิดชอบเมื่อท่านเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ท่านไม่ได้เป็น เดียว ท่านอาจจะนำเชื้อสู่คนที่ท่านรักเนื่องจากโรคบางโรคไม่มีอาการเตือน ท่านอาจจะนำเชื้อสู่คนที่ท่านรักโดยไม่ตั้งใจ โรคหลายโรคสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การเรียนรู้ถึงพฤติกรรมเสี่ยงจะทำให้ท่านสามารถหลีกเลี่ยงจากโรคติดต่อทาง เพศสัมพันธ์
พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูง
หมายถึงพฤติกรรมที่จะทำให้ท่านติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้แก่พฤติกรรมดังต่อไปนี้
- มีการเปลี่ยนคู่นอนหลายคน
- เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น
- คู่ครองเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ร่วมเพศกับคนที่ไม่รู้จัก
- ดื่มสุราหรือใช้ยาเสพติดก่อนร่วมเพศ เนื่องจากจะทำให้มีการร่วมเพศที่เสี่ยงต่อการติดโรค
- ร่วมเพศกับผู้ติดยาเสพติด
- ร่วมเพศทางทวารหนัก
- ไม่สวมถุงยางขณะร่วมเพศกับคนที่ไม่ใช่ภรรยา
หากท่านเลือกคู่ครองที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ท่านสามารถลดอัตราการติดเชื้อลงไป 5000 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ยุ่งกับกลุ่มเสี่ยง หากคู่นอนของท่านมีผลการตรวจเลือดทดสอบ HIV ให้ผลลบท่านจะลดความเสี่ยงลง 100 เท่าดังนั้นจึงมีความจำเป็นสำหรับคู่รักก่อนที่จะมีอะไรกันควรที่จะเลือกคู่ นอนให้ดีและควรที่จะเจาะเลือดก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ การสวมถุงยางคุมกำเนิดจะลดอัตราเสี่ยงลงไป 10 เท่า
พฤติกรรมที่ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ก่อนมีเพศสัมพันธ์ต้องมีสติ อย่าหน้ามืดจนกระทั่งขาดสติไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิด หากจะร่วมเพศกับคนที่ไม่รู้ประวัติควรจะคิดว่าเขาอาจจะเป็นโรคติดต่อ
- ให้งดมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ต้องสงสัยไม่ว่าจะเป็นสามีหรือคนอื่น
- ให้มีคู่คนเดียวโดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และหากจะมีคู่คนใหม่จะต้องซักประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ประวัติคู่นอนคนก่อน ประวัติการใช้ยาเสพติด รวมทั้งสุขภาพปัจจุบันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ ควรจะเจาะเลือดดูโรคเอดส์ ไวรัสตับอักเสบ บี ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์
- ให้สวมถุงยางถ้าไม่แน่ใจ ถ้าใช้สารหล่อลื่นต้องใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย
- ไม่ดื่มสุราหรือใช้ยาเสพติดก่อนร่วมเพศเพราะอาจจะขาดความยั้งคิด
การติดเชื้อ HIV เมื่อร่วมเพศทางทวารหนัก
มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ที่ให้ร่วมเพศทางทวารหนักจะมีอัตราเสี่ยงการติดเชื้อสูง ยิ่งมีคู่หลายคนยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่ม จากการศึกษาพบว่าผู้ที่ให้ร่วมเพศทางทวารหนักและมีคู่จำนวน 2-9 คนจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า สำหรับผู้ที่มีคู่ 50 คนจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 9.2 เท่า การสวนล้างทวารหนักหรือการสอดนิ้วเข้าทางทวารหนักจะเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ
การร่วมเพศระหว่างชายหญิง
จากหลักฐานพบว่าสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ การร่วมเพศขณะมีประจำเดือนจะทำให้ผู้ชายติดเชื้อได้ง่าย
การทำ Oral sex
การทำ oral sex ไม่ว่าจะชายทำให้หญิงหรือหญิงทำให้ชาย ก็ไม่ทำให้ปัจจัยเสี่ยงเพิ่ม
กิจกรรมทางเพศที่ไม่มีความเสี่ยงได้แก่
- การช่วยตัวเอง
- การนวด การสัมผัสภายนอก
- การหอมแก้ม
กิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำ
- การจูบปาก(ต้องไม่มีแผลในปาก)
- การสำเร็จความใคร่ให้กัน(ต้องไม่มีแผล)
- การร่วมเพศโดยมีการสวมถุงยางคุมกำเนิด
- การทำ oral หรือ anal โดยการสวมถุงยาง
- มีการสัมผัสปัสสาวะโดยที่ผิวหนังปกติ
- การใช้อุปกรณ์ช่วยตัวเองโดยที่ไม่แบ่งปันการใช้กับคนอื่น
- การใช้ครีมหล่อลื่นที่ทำจากน้ำ(หากเป็นน้ำมันจะทำให้ถุงยางเสื่อม)
กิจกรรมที่ไม่ปลอดภัย
- การทำ oral และหรือการกลือน้ำอสุจิโดยที่ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย
- การทำ oral ให้ผู้หญิง
กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
- การร่วมเพศทางทวารหนักโดยที่ไม่ได้สวมถุงยาง
- การล้างหรือใช้นิ้วสอดก่อนการมีเพศสัมพันธ์
- การร่วมเพศที่ไม่ได้สวมถุงยางคุมกำเนิด
การใช้ถุงยางคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง
- ใช้ถุงยางที่ทำจาก latex
- ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
- เก็บถุงยางไว้ในที่แห้งและเย็นไม่ให้ถูกแสง
- ไม่ใช้ถุงยางที่หมดอายุ หรือเสื่อมสภาพ
- ใส่ถุงยางอย่างระวังมิให้ขาด
- ป้องกันมิให้มีอากาศแทรกอยู่ในถุงยาง
- ใส่ถุงยางเมื่ออวัยวะแข็งตังเต็มที่ก่อนที่สอดใส่อวัยวะเพศ
- ไม่ใช้ครีมหล่อลื่นที่เป็นไขมัน
- ชักอวัยวะเพศออกขณะที่กำลังแข็งตัว ใช้นิ้วบีบขอบถุงยางขณะดึงออก อย่าให้ถุงยางหลุดขณะดึงอวัยวะเพศออก
- ถ้าถุงยางหลุดหรือขาดให้รีบใส่อันใหม่ทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น