การตรวจอัลตราซาวนด์คืออะไร
การตรวจอัลตร้าซาวนด์ที่สำคัญ
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ที่โรงพยาบาลส่วนใหญ่ ได้กำหนดไว้มีอยู่ด้วยกัน 2
ชนิดคือ การตรวจอัลตร้าซาวนด์ในสัปดาห์ที่ 12 เพื่อคำนวณวันครบกำหนดคลอด (
Dating scan) และการตรวจอัลตร้าซาวนด์ในสัปดาห์ที่ 20
เพื่อหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ ( Anomaly scan)
สถานพยาบาลบางแห่งอาจตรวจอัลตร้าซาวนด์ในสัปดาห์ที่ 20
เพียงอย่างเดียวเป็นมาตรฐาน
ในขณะที่สถานพยาบาลบางแห่งจะตรวจอัลตร้าซาวนด์ทั้ง 2 ชนิด
การ
ตรวจครรภ์ส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงในที่นี้เป็นการตรวจครรภ์โดยใช้คลื่นอัลตร้า
ซาวนด์ โดยแพทย์จะทาเจลลงบนท้องของคุณ
จากนั้นจะใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กสำหรับใช้มือจับซึ่งเรียกว่าทรานส์ดิวเซอร์ (
Transducer) เคลื่อนไปบนผิวหน้าท้องของคุณ
ซึ่งจะส่งภาพของลูกน้อยในครรภ์ไปที่จอภาพ การตรวจอัลตร้าซาวนด์ในบางครั้ง
แพทย์อาจขอให้คุณกลั้นปัสสาวะเอาไว้เพื่อให้มีน้ำเต็มกระเพาะปัสสาวะ
เพื่อจะช่วยดันมดลูกไปข้างหน้าทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนขึ้น
ประเภทของการตรวจอัลตร้าซาวนด์:
การตรวจอัลตร้าซาวนด์ในระยะแรกเริ่ม
หาก
คุณมีอาการปวดหรือมีเลือดออก
เคยแท้งบุตรมาก่อนหน้านี้หรือเคยตั้งครรภ์นอกมดลูก ( Ectopic pregnancy)
คุณอาจจะต้องรับการตรวจอัลตร้าซาวนด์ตั้งแต่เนิ่นๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์ได้ 6
- 10 สัปดาห์ เพราะในช่วงนี้ ลูกน้อยในครรภ์ยังมีขนาดเล็กมาก ดังนั้น
เพื่อให้ได้ภาพที่ละเอียดชัดเจนมากที่สุด การตรวจครรภ์ในช่วงนี้
แพทย์จะใช้หัวอัลตร้าซาวนด์ขนาดเล็กสอดเข้าไปในช่องคลอดของคุณ
การ
ตรวจอัลตร้าซาวนด์ชนิดนี้ มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
แต่เป็นธรรมดาที่คุณอาจจะรู้สึกกังวลบ้างเล็กน้อย
เพราะฉะนั้นขอให้ปรึกษากับพยาบาลผดุงครรภ์หรือสูติแพทย์ของคุณ
ซึ่งทั้งสองท่านนี้จะช่วยตอบคำถามต่างๆ ของคุณได้
และขอให้จำไว้ว่าการตรวจนี้จะช่วยตรวจสอบว่าลูกน้อยในครรภ์มีสุขภาพสมบูรณ์
ดี เพื่อคลายความวิตกกังวลระหว่างการตั้งครรภ์ลงให้มากที่สุด
การตรวจอัลตร้าซาวนด์เพื่อคำนวณวันคลอด
การ
ตรวจอัลตร้าซาวนด์ในช่วง 6 - 12 สัปดาห์
เป็นการตรวจมาตรฐานในโรงพยาบาลส่วนใหญ่
การตรวจนี้จะช่วยให้คุณทราบวันครบกำหนดคลอดที่แน่นอน
อีกทั้งยังช่วยทำให้ทราบรายละเอียดที่สำคัญหลายๆ ด้านอีกด้วย เช่น
อายุของลูกน้อยในครรภ์ จำนวนลูกน้อยในครรภ์ การเต้นของหัวใจ
ตรวจดูว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆ ที่เห็นได้ชัดหรือไม่
ตรวจดูว่ารังไข่อยู่ในสภาพปกติดีหรือไม่
การ ตรวจจะใช้เวลาประมาณ
10 นาที โดยระหว่างนั้นภาพของลูกน้อยในครรภ์จะถูกถ่ายเก็บไว้
การได้เห็นลูกน้อยในครรภ์บนหน้าจอเป็นประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น
และคุณแม่ส่วนใหญ่มักจะรู้สึกตื้นตันใจ
คุณจะได้รับภาพถ่ายของลูกน้อยกลับบ้าน (
โรงพยาบาลบางแห่งอาจคิดค่าบริการสำหรับภาพถ่าย )
ซึ่งคุณสามารถนำไปอวดคนที่คุณรักเพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น
นี้ได้ด้วย
การตรวจอัลตร้าซาวนด์เพื่อวัดความหนาของน้ำที่สะสมบริเวณต้นคอทารก ( Nuchal translucency scan;NT)
การ
ตรวจอัลตร้าซาวนด์ชนิดนี้ เป็นการตรวจที่ไม่ลุกล้ำเข้าไปในร่างกาย (
non-invasive) และไม่มีอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์
โดยปกติจะเริ่มตรวจเมื่อตั้งครรภ์ได้ 11 ถึง 14 สัปดาห์
แต่โรงพยาบาลบางแห่งไม่เสนอการตรวจครรภ์ชนิดนี้
หากโรงพยาบาลของคุณไม่เสนอการตรวจครรภ์ชนิดนี้
คุณสามารถขอรับบริการตรวจครรภ์ชนิดนี้ด้วยตัวเอง
การตรวจอัลตร้าซาวนด์เพื่อวัดความหนาของน้ำที่สะสมบริเวณต้นคอทารก
เป็นการประเมินโอกาสเสี่ยงของกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม ( Down’s Syndrome)
หรือความผิดปกติทางโครโมโซมอื่นๆ ของทารกในครรภ์
โดยจะประเมินจากอายุของว่าที่คุณแม่
ความหนาของน้ำที่สะสมบริเวณต้นคอของทารก
กระดูกสันจมูกของทารกและผลการตรวจเลือด
หากผลการตรวจชี้ว่าอาจมีโอกาสเสี่ยงสูง คุณอาจต้องรับการตรวจอื่นๆ
เพิ่มเติม เช่น การตรวจน้ำคร่ำ ( amniocentesis test)
เพื่อให้ทราบผลที่แน่ชัด
ว่าที่คุณแม่และว่าที่คุณพ่อสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ
ตรวจชนิดนี้กับพยาบาลผดุงครรภ์หรือสูติแพทย์ได้
การตรวจครรภ์กลางไตรมาสที่สอง (ช่วง 4-6 เดือน)
หาก
เป็นไปได้ คุณแม่ควรเข้ารับการตรวจครรภ์กลางไตรมาสที่สอง (ช่วงครรภ์ 4 - 6
เดือน) ซึ่งการตรวจในระยะนี้ คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้สึกตื่นเต้น
เพราะไม่เพียงแต่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการตั้งครรภ์เท่านั้น
แต่คุณแม่ยังจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาของลูกน้อยที่ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย
และคุณยังได้ทราบด้วยว่าลูกน้อยในครรภ์ของคุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการทราบเพศของลูกน้อยเมื่อตอนคลอดเพื่อความตื่นเต้น
แพทย์ก็จะยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้ให้คุณทราบ การตรวจนี้จะใช้เวลาประมาณ
15-20 นาที
และโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะจำหน่ายรูปถ่ายจากการตรวจอัลตร้าซาวนด์ให้คุณ
ถ้าคุณต้องการ
โดยปกติ การตรวจนี้จะทำในช่วงสัปดาห์ที่ 18 - 21
ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจความสมบูรณ์ของลูกน้อยในครรภ์ทั่ว
ทั้งร่างกาย โดยแพทย์จะตรวจดูอวัยวะส่วนต่างๆ ต่อไปนี้
* ศีรษะของเด็กเพื่อหาความผิดปกติของสมองหรือปากแหว่งเพดานโหว่
* กระดูกสันหลังและท้องเพื่อดูว่าอวัยวะเหล่านี้จัดเรียงอยู่ในแนวเดียวกันและมีพัฒนาการที่เหมาะสมหรือไม่
* ขนาดและรูปร่างของหัวใจของทารก
* ท้อง ซึ่งควรอยู่ถัดจากหัวใจลงไป
คุณอาจจะเห็นน้ำคร่ำบางส่วนที่ลูกน้อยของคุณกลืนเข้าไป
ซึ่งจะดูคล้ายกับฟองอากาศสีดำในท้องของลูกน้อย
* ไตและกระเพาะปัสสาวะของทารก
* มือและเท้าทั้งสองข้างของทารก ถึงแม้ว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจจะไม่ถึงกับนับนิ้วมือนิ้วเท้าเด็กก็ตาม
* รก สายสะดือและน้ำคร่ำ
* วัดขนาดรอบศีรษะของทารก ท้องและกระดูกต้นขาเพื่อให้แน่ใจว่าอวัยวะต่างๆ เหล่านี้มีพัฒนาการที่สมบูรณ์เท่าเทียมกัน
หากมีสัญญาณของความผิดปกติใดๆ ขอให้คุณปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจครรภ์ชนิดอื่นๆ ต่อไป
การตรวจพัฒนาการของทารก
การ
ตรวจอัลตร้าซาวนด์ชนิดนี้
เป็นการตรวจเพื่อดูว่าลูกน้อยในครรภ์ของคุณกำลังเติบโตและมีพัฒนาการที่แข็ง
แรงสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว
แพทย์จะใช้วิธีการตรวจชนิดนี้ในกรณีที่มีความกังวลเกี่ยวกับการเจริญเติบโต
ของลูกน้อย
อัพเดทข้อมูลโดย...สิริกัญญา นรินทร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น