สาขาวิชาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก ภ.ศัลยศาสตร์
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
หัวใจ เป็นอวัยวะที่มีรูปร่างคล้ายกำปั้น ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่มีพักผ่อน เพราะด้วยหน้าที่ที่ต้องสูบฉีดโลหิตไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ
ของร่างกาย หากหยุดทำงานเมื่อใดก็หมายถึงการสูญเสียชีวิต
ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคหัวใจจำนวนมากที่ประสบกับภาวะทุกข์ทรมานจากอาการป่วย
การรักษาที่ดีที่สุดขณะนี้ก็คือ การผ่าตัด
ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ปัจจุบัน โรคหัวใจทุกชนิดสามารถทำการผ่าตัดได้
แต่หากร่างกายมีภาวะของโรคร้ายแรงอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิ โรคมะเร็ง
อาการสมองตายหรือพิการ และการติดเชื้อรุนแรง
ก็อาจทำให้ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้
สำหรับสาเหตุหลักของการเกิดโรคอาจเกิดจากการติดเชื้อ และภาวะเป็นพิษต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังรวมถึงปัจจัยเสี่ยงที่เสริมให้เกิดโรค เช่น บุหรี่
อาหารบางประเภท โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น
โรคหัวใจมีกี่ชนิด และสาเหตุของโรคเกิดจากอะไร
โรคหัวใจแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ ชนิดที่เป็นแต่กำเนิด และเป็นภายหลังเกิด แต่ที่พบบ่อยในประเทศไทย ได้แก่
1. โรคหัวใจแต่กำเนิด
2. โรคหัวใจรูห์มาติก
3. โรคหัวใจจากความดันโลหิตสูง
4. โรคหัวใจจากหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
5. โรคหัวใจจากภาวะอื่น ๆ
ทำไมต้องผ่าตัดหัวใจ
โดยปกติ การรักษาสามารถทำได้ 3 วิธี
คือ ใช้ยา ใช้เครื่องมือพิเศษ และการผ่าตัด
ซึ่งแพทย์มักจะรักษาผู้ป่วยโดยการให้ยาก่อนเสมอ
ควบคู่กับการแนะนำให้ปฏิบัติตัวต่าง ๆ เช่น การรับประทานอาหาร
การออกกำลังกาย การพักผ่อน แต่หากอาการไม่ทุเลา
หรือมีการดำเนินโรคไปในทางที่แย่ลง
แพทย์ก็อาจแนะนำให้รักษาด้วยเครื่องมือพิเศษหรือใช้วิธีผ่าตัด
สำหรับการใช้เครื่องมือพิเศษ ก็เช่น
ใช้สายสวนที่มีปลายบอลลูนใส่เข้าไปถ่างหลอดเลือดตีบ
หรือการใส่เครื่องมือพิเศษเข้าไปอุดรอยรั่ว
ซึ่งวิธีที่กล่าวมาจะใช้ได้เฉพาะกรณีผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิดที่มีผนังกั้น
ห้องบนรั่ว หรือในรายที่หลอดเลือดหรือลิ้นหัวใจตีบ
แพทย์ก็จะใส่บอลลูนเข้าไปขยายได้ เป็นต้น
ส่วน
โรคหัวใจบางชนิดที่ใช้ยารักษาไม่ได้ผล หรือได้ผลน้อยมาก ก็จำเป็นต้องผ่าตัด
เช่น โรคหัวใจแต่กำเนิด โรคเนื้องอกภายในหัวใจ โรคลิ้นหัวใจรั่วมาก
โรคลิ้นหัวใจติดเชื้อที่ใช้ยาไม่ได้ผล หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจระยะสุดท้าย
ซึ่งอาจจำเป็นต้องรักษาโดยการเปลี่ยนหัวใจ
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าตัดหัวใจ
ใน
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
ศัลยแพทย์จะต้องอธิบายถึงภาวะโรคหัวใจที่ท่านกำลังเป็นอยู่
เหตุผลที่ต้องผ่าตัด อัตราการเสี่ยง และผลดีผลเสียที่จะตามมา
นอกจากนี้ยังจะแนะนำหลักปฏิบัติต่าง ๆ คือ
1. ควร
ไปพบทันตแพทย์ เพื่อรักษาโรคฟันผุ เหงือกอักเสบ ให้เรียบร้อยก่อน
เพราะอาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อภายหลังการผ่าตัดได้ และข้อสำคัญคือ
ผู้ป่วยจะต้องบอกทันตแพทย์ก่อนการรักษาว่าท่านเป็นโรคหัวใจเพื่อที่
ทันตแพทย์จะได้ให้ยาปฏิชีวนะก่อนและหลังการทำฟัน
2. ควรงดดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ และงดบุหรี่ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
3. ถ้ามีประวัติเลือดออกง่าย หยุดยากผิดปกติ หรือมีจ้ำเลือดตามร่างกายของผู้ป่วยหรือญาติพี่น้องจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย
4. งดยาบางชนิดอย่างน้อย 5-7 วัน เช่น แอสไพริน หรือยาหัวใจบางชนิดซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แจ้งให้ทราบ
5. ต้องแจ้งประวัติการแพ้ยา แพ้สารบางอย่างให้แพทย์ทราบ
ดูแลร่างกายอย่างไรเมื่อผ่าตัดหัวใจแล้ว
ผู้ป่วยจะต้องอยู่ในหออภิบาลผู้ป่วยโรคหัวใจ (CCU Cardiac Care) ซึ่ง
จะมีแพทย์ พยาบาลที่ผ่านการอบรมมาโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถติดตามดูแลการทำงานของหัวใจ
ตลอดเวลา
และสำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในระยะแรกก่อนที่จะหายใจเองได้
ดี โดยปกติใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 วัน นอกจากกรณีที่อาการยังไม่ดีขึ้นเท่าไรนัก ก็จำเป็นต้องพักฟื้นจนอาการดีขึ้นแล้วจึงค่อยย้ายออก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น