การตรวจครรภ์ส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงในที่นี้เป็นการ ตรวจครรภ์โดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวนด์ โดยแพทย์จะทาเจลลงบนท้องของคุณ จากนั้นจะใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กสำหรับใช้มือจับซึ่งเรียกว่าทรานส์ดิวเซอร์ ( Transducer) เคลื่อนไปบนผิวหน้าท้องของคุณ ซึ่งจะส่งภาพของลูกน้อยในครรภ์ไปที่จอภาพ การตรวจอัลตร้าซาวนด์ในบางครั้ง แพทย์อาจขอให้คุณกลั้นปัสสาวะเอาไว้เพื่อให้มีน้ำเต็มกระเพาะปัสสาวะ เพื่อจะช่วยดันมดลูกไปข้างหน้าทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนขึ้น
ประเภทของการตรวจอัลตร้าซาวนด์:
การตรวจอัลตร้าซาวนด์ในระยะแรกเริ่ม
หากคุณมีอาการปวดหรือมีเลือดออก เคยแท้งบุตรมาก่อนหน้านี้หรือเคยตั้งครรภ์นอกมดลูก ( Ectopic pregnancy) คุณอาจจะต้องรับการตรวจอัลตร้าซาวนด์ตั้งแต่เนิ่นๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์ได้ 6 - 10 สัปดาห์ เพราะในช่วงนี้ ลูกน้อยในครรภ์ยังมีขนาดเล็กมาก ดังนั้น เพื่อให้ได้ภาพที่ละเอียดชัดเจนมากที่สุด การตรวจครรภ์ในช่วงนี้ แพทย์จะใช้หัวอัลตร้าซาวนด์ขนาดเล็กสอดเข้าไปในช่องคลอดของคุณ
การ ตรวจอัลตร้าซาวนด์ชนิดนี้ มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน แต่เป็นธรรมดาที่คุณอาจจะรู้สึกกังวลบ้างเล็กน้อย เพราะฉะนั้นขอให้ปรึกษากับพยาบาลผดุงครรภ์หรือสูติแพทย์ของคุณ ซึ่งทั้งสองท่านนี้จะช่วยตอบคำถามต่างๆ ของคุณได้ และขอให้จำไว้ว่าการตรวจนี้จะช่วยตรวจสอบว่าลูกน้อยในครรภ์มีสุขภาพสมบูรณ์ ดี เพื่อคลายความวิตกกังวลระหว่างการตั้งครรภ์ลงให้มากที่สุด
การตรวจอัลตร้าซาวนด์เพื่อคำนวณวันคลอด
การตรวจอัลตร้าซาวนด์ในช่วง 6 - 12 สัปดาห์ เป็นการตรวจมาตรฐานในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ การตรวจนี้จะช่วยให้คุณทราบวันครบกำหนดคลอดที่แน่นอน อีกทั้งยังช่วยทำให้ทราบรายละเอียดที่สำคัญหลายๆ ด้านอีกด้วย เช่น อายุของลูกน้อยในครรภ์ จำนวนลูกน้อยในครรภ์ การเต้นของหัวใจ ตรวจดูว่ามีสิ่งผิดปกติใดๆ ที่เห็นได้ชัดหรือไม่ ตรวจดูว่ารังไข่อยู่ในสภาพปกติดีหรือไม่
การตรวจจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยระหว่างนั้นภาพของลูกน้อยในครรภ์จะถูกถ่ายเก็บไว้ การได้เห็นลูกน้อยในครรภ์บนหน้าจอเป็นประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น และคุณแม่ส่วนใหญ่มักจะรู้สึกตื้นตันใจ คุณจะได้รับภาพถ่ายของลูกน้อยกลับบ้าน ( โรงพยาบาลบางแห่งอาจคิดค่าบริการสำหรับภาพถ่าย ) ซึ่งคุณสามารถนำไปอวดคนที่คุณรักเพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น นี้ได้ด้วย
การตรวจอัลตร้าซาวนด์เพื่อวัดความหนาของน้ำที่สะสมบริเวณต้นคอทารก ( Nuchal translucency scan;NT)
การตรวจอัลตร้าซาวนด์ชนิดนี้ เป็นการตรวจที่ไม่ลุกล้ำเข้าไปในร่างกาย (
non-invasive) และไม่มีอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์
โดยปกติจะเริ่มตรวจเมื่อตั้งครรภ์ได้ 11 ถึง 14 สัปดาห์
แต่โรงพยาบาลบางแห่งไม่เสนอการตรวจครรภ์ชนิดนี้
หากโรงพยาบาลของคุณไม่เสนอการตรวจครรภ์ชนิดนี้
คุณสามารถขอรับบริการตรวจครรภ์ชนิดนี้ด้วยตัวเอง
การตรวจอัลตร้าซาวนด์เพื่อวัดความหนาของน้ำที่สะสมบริเวณต้นคอทารก
เป็นการประเมินโอกาสเสี่ยงของกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม ( Down’s Syndrome)
หรือความผิดปกติทางโครโมโซมอื่นๆ ของทารกในครรภ์
โดยจะประเมินจากอายุของว่าที่คุณแม่
ความหนาของน้ำที่สะสมบริเวณต้นคอของทารก
กระดูกสันจมูกของทารกและผลการตรวจเลือด
หากผลการตรวจชี้ว่าอาจมีโอกาสเสี่ยงสูง คุณอาจต้องรับการตรวจอื่นๆ
เพิ่มเติม เช่น การตรวจน้ำคร่ำ ( amniocentesis
test) เพื่อให้ทราบผลที่แน่ชัด
ว่าที่คุณแม่และว่าที่คุณพ่อสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ
ตรวจชนิดนี้กับพยาบาลผดุงครรภ์หรือสูติแพทย์ได้
การตรวจครรภ์กลางไตรมาสที่สอง (ช่วง 4-6 เดือน)
หากเป็นไปได้ คุณแม่ควรเข้ารับการตรวจครรภ์กลางไตรมาสที่สอง (ช่วงครรภ์ 4 - 6 เดือน) ซึ่งการตรวจในระยะนี้ คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่เพียงแต่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่คุณแม่ยังจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาของลูกน้อยที่ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย และคุณยังได้ทราบด้วยว่าลูกน้อยในครรภ์ของคุณเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการทราบเพศของลูกน้อยเมื่อตอนคลอดเพื่อความตื่นเต้น แพทย์ก็จะยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้ให้คุณทราบ การตรวจนี้จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที และโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะจำหน่ายรูปถ่ายจากการตรวจอัลตร้าซาวนด์ให้คุณ ถ้าคุณต้องการ
โดยปกติ การตรวจนี้จะทำในช่วงสัปดาห์ที่ 18 - 21 ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจความสมบูรณ์ของลูกน้อยในครรภ์ทั่ว ทั้งร่างกาย โดยแพทย์จะตรวจดูอวัยวะส่วนต่างๆ ต่อไปนี้
- ศีรษะของเด็กเพื่อหาความผิดปกติของสมองหรือปากแหว่งเพดานโหว่
- กระดูกสันหลังและท้องเพื่อดูว่าอวัยวะเหล่านี้จัดเรียงอยู่ในแนวเดียวกันและมีพัฒนาการที่เหมาะสมหรือไม่
- ขนาดและรูปร่างของหัวใจของทารก
- ท้อง ซึ่งควรอยู่ถัดจากหัวใจลงไป คุณอาจจะเห็นน้ำคร่ำบางส่วนที่ลูกน้อยของคุณกลืนเข้าไป ซึ่งจะดูคล้ายกับฟองอากาศสีดำในท้องของลูกน้อย
- ไตและกระเพาะปัสสาวะของทารก
- มือและเท้าทั้งสองข้างของทารก ถึงแม้ว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจจะไม่ถึงกับนับนิ้วมือนิ้วเท้าเด็กก็ตาม
- รก สายสะดือและน้ำคร่ำ
- วัดขนาดรอบศีรษะของทารก ท้องและกระดูกต้นขาเพื่อให้แน่ใจว่าอวัยวะต่างๆ เหล่านี้มีพัฒนาการที่สมบูรณ์เท่าเทียมกัน
หากมีสัญญาณของความผิดปกติใดๆ ขอให้คุณปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการตรวจครรภ์ชนิดอื่นๆ ต่อไป
การตรวจพัฒนาการของทารก
การตรวจอัลตร้าซาวนด์ชนิดนี้ เป็นการตรวจเพื่อดูว่าลูกน้อยในครรภ์ของคุณกำลังเติบโตและมีพัฒนาการที่แข็ง แรงสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว แพทย์จะใช้วิธีการตรวจชนิดนี้ในกรณีที่มีความกังวลเกี่ยวกับการเจริญเติบโต ของลูกน้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น